
ทีมชาติโปแลนด์ กลายเป็นชาติแรกที่ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึกยูโร 2016 หลังดวลจุดโทษเอาชนะสวิตเซอร์แลนด์ไปด้วยสกอร์ 5-4 (1-1) รอชนโครแอต/ฝอยทอง ต่อไป
เดิมพันกีฬาออนไลน์ ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2016 คู่แรกของรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สต๊าด เจฟฟรัว-กีชาร์ ในแซงต์ เอเตียน เป็นการพบกันระหว่าง สวิตเซอร์แลนด์ ทีมอันดับสองของกลุ่มเอ กับ โปแลนด์ ทีมอันดับสองของกลุ่มซี
วาดิเมียร์ เพตโควิช กุนซือทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ จัด 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุดของลงสนามอย่างครบครัน ในระบบ 4-2-3-1 นำมาโดย ยาน ซอมเมอร์ ยืนเฝ้าเสา สเตฟาน ลิตช์สไตเนอร์ แบ็คขวากัปตันทีม, เซอร์ดาน ชากิรี และแกรนิท ซาก้า
ด้านโปแลนด์ของอดัม นาวอลก้า ยังคงไม่มี วอจเซียค เชสนีย์ ที่มีอาการบาดเจ็บ และบาร์ทอซ คาฟุสท์ก้า ที่ติดโทษแบนจากการลงเตะในรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนที่เหลือนำโดยขุมกำลังสำคัญประจำทีมอย่าง เกอร์เซกอร์ซ คริโชเวียค, อะเรค มิลิค, ลูคัสซ์ ปิสซ์เซ็ค, ยาคุบ บลาสซิคอฟสกี้ และโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ในระบบ 4-4-2
เริ่มเกมมาตั้งแต่นาทีแรก โปแลนด์เกือบได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะการจ่ายบอลคืนกลับหลังของโยฮัน ฌูรู มาให้ยาน ซอมเมอร์ไม่ดี จนบอลมาเข้าทางอะเรค มิลิค ได้โอกาสยิงจ่อๆ แต่บอลยังไม่ตรงกรอบและเหินข้ามคานออกไป
จากนั้นเป็นโปแลนด์ที่มีโอกาสบุกมากกว่า แต่ยังโจมตีแนวรับของสวิตเซอร์แลนด์ได้ไม่แม่นยำนัก ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ได้โอกาสทักทายโต้กลับชนิดที่ได้ลุ้นในนาทีที่ 10 จากการผ่านมาเข้าบริเวณเขตโทษของเซอร์ดาน ชากิรี จนบอลมาเข้าทางของเบลริม เชไมลี ได้โอกาสยิง แต่ดันซัดหลุดเสาออกไป
ช่วง 20 นาทีแรกทั้งสองทีมต่างระมัดระวังไม่ให้ทีมเสียประตูทั้งสองฝ่าย โดยเน้นการครองบอลเพื่อหาช่องหรือพื้นที่ว่างใช้โจมตีสลับกับการหาจังหวะบุกจากลูกตั้งเตะเป็นส่วนใหญ่ แต่จังหวะการเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายยังดูขาดๆเกินๆ กอปรกับบรรดาแข้งแนวรับของทั้งสองทีมยังมีข้อผิดพลาดให้เห็นไม่บ่อยนัก
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 30 เริ่มเป็นโปแลนด์ที่มีภาษีการบุกดูชัดเจนกว่า และเกือบได้ประตูออกนำอยู่หลายจังหวะจากโอกาสทำเกมโต้กลับของที่ยังคงเป็นจุดเด่นมาโดยตลอดในยูโรหนนี้ ทั้งจากลูกยิงของคามิล กรอซิชกี้ และ อะเรค มิลิค ในนาทีที่ 31 และ 35 ตามลำดับ แต่จังหวะสุดท้ายทำผิดพลาดเองทั้งสิ้น
ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ได้โอกาสทำเกมบุกใส่บ้างเล็กน้อย จากลูกเตะมุมในนาทีที่ 36 ของริคาร์โด้ โรดริเกวซ มาเข้าทาง ฟาเบียน ชาร์ ได้โอกาสโหม่งบอลตกพื้น แต่ลูคัส ฟาเบียนสกี้ยังคงยืนถูกที่ถูกเวลา และการยิงนอกกรอบของเบลริม เชไมลี ที่ไปติดบล็อคแนวรับโปแลนด์ แต่ลูคัส ฟาเบียนสกี้ยังปัดออกไว้ได้หวุดหวิด
จนกระทั่งนาทีที่ 39 โปแลนด์ได้ประตูออกนำ 1-0 จากการเล่นเกมสวนกลับเร็วของคามิล กรอซิชกี้ โยนบอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย ทะลุมาถึง ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ ที่ยืนอยู่บริเวณเสาสองของเขตโทษ จัดการซัดบอลลอดตัวยาน ซอมเมอร์เข้าไปตุงตาข่าย และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เริ่มเกมในครึ่งหลังเป็นสวิตเซอร์แลนด์ที่เริ่มโหมเกมบุกใส่โปแลนด์ทันที แต่จังหวะสุดท้ายยังดูขาดๆเกินๆ ไม่แม่นยำและเฉียบคมพอ ขณะที่โปแลนด์ยังคงใช้เกมสวนกลับโจมตีสวิตเซอร์แลนด์และในนาทีที่ 50 เป็นโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ได้โอกาส ซัดบอลในเขตโทษของสวิตเซอร์แลนด์ แต่สุดท้ายยาน ซอมเมอร์ ยังรับไว้ได้ ซึ่งการยิงดังกล่าว ถือเป็นโอกาสยิงตรงกรอบครั้งแรกของเจ้าตัวในยูโร 2016
เกมบุกของขุนพลแดนนาฬิกายังคงไม่ดีขึ้น ทำให้วาดิเมียร์ เพตโควิช กุนซือของทีม ไม่รอช้าที่จะขยับเปลี่ยนผู้เล่นในแดนหน้าลงสนาม โดยถอดเบลริม เชไมลีออก แล้วส่ง บรีล เอ็มโบโล ลงมาเป็นศูนย์หน้าคู่กับฮารีส เซเฟโรวิช ในนาทีที่ 58 จากนั้นนาทีที่ 70 ส่ง เอเรน แดร์ดิย็อค ลงมาแทน แอดเมียร์ เมห์เมดี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งศูนย์หน้าของทีมลงสนามเพื่อหวังทะลวงประตูโปแลนด์ให้ได้
สวิตเซอร์แลนด์ที่ไล่โจมตีโปแลนด์ตลอดช่วงครึ่งเวลาหลังมาพลาดการได้ประตูตีเสมออย่างน่าเสียดายจากการยิงฟรีคิกบริเวณนอกกรอบเขตโทษของริคาร์โด้ โรดริเกวซ ในนาทีที่ 73 ชนิดที่บอลเกือบเสียบสามเหลี่ยมเข้าประตู ทว่ามือกาวจากสวอนซีของโปแลนด์อย่างลูคัส ฟาเบียนสกี้ยังคงโชว์หนึบกระโดดพุ่งปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด
จากนั้นช่วง 10 นาทีสุดท้ายการพับสนามบุกของสวิตเซอร์แลนด์ยังคงได้เพียงแค่โอกาสหวาดเสียว โดยขุนพลแดนนาฬิการพลาดการได้ประตูตีเสมออีกครั้งการจังหวะการยิงในเขตโทษของบรีล เอ็มโบโร ซัดไปติดบล็อคของแนวรับโปแลนด์และฮารีส เซเฟโรวิช ที่ยิงบอลชนคานอย่างจัง
จนกระทั่งนาทีที่ 82 สวิตเซอร์แลนด์ที่ขึงเกมบุกอยู่ตลอดในครึ่งเวลาหลังมาได้ประตูไล่ตามตีเสมอสำเร็จ 1-1 จากลูกจักรยานอากาศของเซอร์ดาน ชากิรี บอลเสียบโคนเสาเข้าอย่างสวยงาม
หลังเสียประตู โปแลนด์เริ่มทำเกมบุกใส่สวิตเซอร์แลนด์บ้าง แต่ท้ายที่สุดในเวลา 90 นาทีไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ เสมอกันอยู่ที่ 1-1 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษ เกมส่วนใหญ่เป็นสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้โอกาสบุกมากกว่า และพลาดการได้ประตูนำในนาทีที่ 113 โดยการโหม่งจ่อๆของเอเรน แดร์ดิย็อค จากการเปิดของเซอร์ดาน ชากิรี แต่ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ปัดออกได้หวุดหวิด
หมดเวลา 120 นาทียังคงเสมอกันอยู่ที่ 1-1 ทำให้ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ซึ่งท้ายที่สุดเป็นโปแลนด์ที่ดวลจุดโทษแม่นกว่า เอาชนะไปด้วยสกอร์รวม 5-4 พร้อมผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นชาติแรกได้สำเร็จ โดยจะเข้าไปรอพบกับ โครเอเชียหรือโปรตุเกส ต่อไป